รีวิว-Troll หนังเน็ตฟิกภาพสวย กับตำนานยักษ์โทรล เรื่องนี้สนุกแค่ไหน ?
รีวิว-Troll ก่อนอื่นเลยนะคะ เราต้องบอกก่อนว่า ในปีนี้เราจะได้เห็น ภาพยนตร์จาก netflix มากมายหลายเรื่อง หลากหลายแนว และจากหลายสัญชาติ ที่มีทั้งสนุก และแบบที่คนดูรู้สึก ไปไม่สุดและแอบเสียดาย อยู่บ้างเล็กน้อย
โดยวันนี้เราจะขอ พาทุกท่านไป ทำความรู้จัก ภาพยนตร์ที่ได้รับ ความนิยมในไทย กับภาพยนตร์ที่ดูเหมือน จะระทึกแต่ไม่ระทึก อย่างภาพหน้าปก ที่เราเห็นใน Troll จะสนุกน่าติดตามเบอร์ไหน วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝากกันค่ะ
รีวิว-Troll อีกหนึ่งภาพยนตร์ ยักษ์อาละวาดเมือง ที่หลายคนยากดู troll Netflix
รีวิว-Troll ต้องขอสารภาพ ตรงนี้เลยว่า ผู้เขียนเองไม่ค่อย มีความรู้หรือ รู้จักโทรลดีนัก เรียกว่าเคยเห็น และรู้จักชื่อจากฉากสั้น ๆ ใน แฮรี่ พอตเตอร์ เท่านั้น และในปีนี้ใคร ที่รับชมภาพยนตร์ผ่าน Netflix บ่อย ๆ จะเห็นว่าภาพยนตร์ ที่คนไทยให้ความสนใจ มากมายคงหนี ไม่พ้นเรื่องโทรล แล้วทำไมต้องเป็นโทรล
จากการได้รับชม ภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้เขียนรู้สึกว่า ทีมสร้างต้องการนำ เรื่องราวของสิ่งมีชีวิต ในเทพนิยาย ที่ดูเหมือนจะดุร้าย มาเล่าแทนสัตว์ประหลาดตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นคิงคอง ก็อตซิล่า เป็นต้น
ทำให้หยิบตัวละคร ที่มีลักษณะใหญ่โต อย่างโทรลมาสร้างความแปลกใหม่ นับว่านี่เป็นอีกครั้งของการ รีวีวหนังต่างประเทศ จากสัญชาติเล็ก ๆ อย่างนอร์เวย์ที่ต้องบอกว่า พี่ใจใหญ่มาก สร้างภาพยนตร์ที่ ใช้ทุนสูงรวมถึง การนำเทพนิยาย ในยุโรปมาทำให้ เป็นจริงได้อีกครั้ง
หลายคนสงสัยว่า ทำไมต้องเป็น โท ล
รีวิว-Troll เป็นอีกครั้งที่ ผู้เขียนได้มีโอกาส รีวิว หนัง แล้วรู้สึกเซ็งเล็ก ๆ กับเรื่องราวที่ไม่มี อะไรแปลกใหม่เลยสักนิด การใช้โทรลที่ ดูเหมือนจะดุร้าย มาทำให้เป็นเหมือน ธรรมชาติที่ต้องการ ความยุติธรรมจากมนุษย์ ทำให้โทรลดู น่าสงสารและไม่ได้ น่ากลัวอย่างที่คิด
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ ไปบุกทำร้ายธรรมชาติ และที่นั่นเป็น ที่อาศัยของโทรล ทำให้เป็นการปลุกโทรล ขึ้นมาจากหุบเขา พร้อมกับการเก็บภาพไว้ ของประชาชน เริ่มเรื่องก็เหมือนว่า โทรลจะดุร้าย ไล่ทำร้ายบ้าน และผู้คนมากมาย และแน่นอนว่า ทำให้ผู้มีอำนาจ ระดับประเทศ และการเมืองเข้ามา มีบทบาทสำคัญ ในการจัดการกับโทรล
เมื่อเรื่องเริ่มบานปลาย ทำให้นางเอกของเรื่อง ที่ศึกษาเรื่องราว ของซากดึกดำบรรพ์ ต้องกลับไปหาพ่อ ที่มีเรื่องราวบาดหมาง กันยาวนานเป็นสิบปี พ่อของเขาศึกษา เรื่องโทรลเป็นอย่างดี และนั่นทำให้เธอ และพ่อกลับมาช่วยกัน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่แย่นี้
แต่แล้วทุกคน ก็พบความจริงว่าโทรล เป็นเพียงหนึ่งชีวิต ที่เรียกร้องความยุติธรรม จากมนุษย์เท่านั้น โทรลไม่ได้มี เจตนาจะมาทำร้าย เหล่ามนุษย์เลย เมื่อเรื่องราวถูกเขียนพล็อตเรื่อง ให้โทรลน่าสงสาร ก็ทำให้เรื่องนี้ ไม่มีอะไร น่าตื่นเต้นเลยล่ะค่ะ
ไม่ใช่ หนังเทพนิยาย แต่มันคือหนังมอนส์เตอร์
เชื่อว่าหลายคน เข้าใจว่านี่คือ หนังเทพนิยาย ที่พูดถึงชีวิต ของสิ่งมีชีวิต ในเทพนิยายอย่าง โทรล และเราจะรู้จัก โทรลมากยิ่งขึ้น ผู้เขียนเองก็ เป็นแบบนั้นค่ะ แต่บอกเลย ว่าไม่ใช่เลย เพราะเนื้อเรื่องเปิดมาแบบงง ๆ พ่อของนางเอง เล่าเรื่องของโทรล ยังไม่ถึง 5 นาที เรายังไม่รู้จักเขาดี รู้แค่ว่าเขาไม่ได้ อยู่ในเทพนิยายเท่านั้น แต่เขามีชีวิตอยู่จริง
และเมื่อเวลาผ่านไปสิบกว่าปี มนุษย์กลับได้เห็นโทรลตัวเป็น ๆ ที่ออกมาอาละวาด ทำร้ายผู้คน และทำลายบ้านเมือง และสถานที่ต่าง ๆ มากมาย บอกเลยว่า ณ จุดนี้โทรล ก็ไม่ได้ต่างอะไร กับมอนสเตอร์บุกเมือง เหมือนเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องบอกว่าทีมสร้าง แค่เปลี่ยนตัว มอนส์เตอร์ ให้แปลกใหม่เท่านั้น
แม้ว่าผู้กำกับชาวนอร์เวย์ จะทำให้เรื่องนี้ ดูน่าสนใจ และแปลกใหม่กว่าเดิม แต่เมื่อโทรลไม่ได้ร้าย และน่าระทึกขวัญอะไร ก็ทำให้บางฉาก ในเรื่องแอบน่าเบื่อ พอสมควรเลยล่ะค่ะ
จุดเด่นของเรื่อง ที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถูกพูดถึงมากขึ้น
รีวิว-Troll แม้ว่าเนื้อเรื่อง จะไม่ถูกใจผู้เขียนเท่าไหร่ เพราะนอกจากการดำเนินเรื่อง จะไม่มีอะไรแปลกใหม่ เดาทางจุดจบได้ง่ายแล้ว ยังมีอีกหลายปม ที่ไม่ถูกคลี่คลาย ยังคงชวนสงสัย แม้กระทั่งว่าทำไม นางเองและพ่อไม่คุยกัน พวกเขามีปัญหาอะไร
แต่เรื่องที่ต้องชม เหล่าทีมสร้างคงต้องยก ให้ในเรื่องของ โปรดักชั่นที่แม้ว่าจะเป็น ประเทศเล็ก ๆ แต่โปรดักชั่นดี เรียกว่าเทียบชั้น หนังดังจากฮอลลีวู้ดได้ดี การสร้างโทรลให้ดูเป็น ยักษ์สูงใหญ่ ที่แรกก็ดู น่ากลัวพอสมควร
บอกเลยว่าเป็น ภาพยนตร์อีกเรื่อง ที่แม้ว่าจะไม่แปลกใหม่ หรือทำให้ผู้เขียนร้องว้าวได้ แต่ก็ดูแก้เบื่อ ในวันหยุดกับครอบครัว ได้ยิ่งถ้าใครชอบหนัง แนวสัตว์ประหลาด บุกเมืองละก็ เชื่อว่าคุณอาจ จะชอบเรื่องนี้ และมีความเห็น ต่างจากผู้เขียน เพราะอาจจะรู้สึกว่า นี่คือภาพยนตร์ที่ สนุกและน่าดูมาก ๆ ก็ได้นะคะ
สำหรับใครที่ ชอบภาพยนตร์แนว ก็อตซิล่า คิงคองหรือสัตว์ประหลาด ตัวใหญ่ ๆ ละก็ ผู้เขียนเชื่อว่าเรื่องโทรล จะเป็นอีกเรื่องที่ คุณอยากดูและเชื่อว่า คุณจะชอบภาพยนตร์ เรื่องนี้ไม่มากก็น้อย
แต่สำหรับผู้เขียนเอง ค่อนข้างคาดหวังไว้มากกว่านี้ เข้าใจว่าเรื่องโทรล จะทำให้เรารู้จัก ความเป็นมาที่ลึกซึ้งกว่านี้ ก็แอบผิดหวังเล็ก ๆ ค่ะ และสำหรับใคร ที่กำลังจะไปดู ภาพยนตร์แห่งปีอย่าง Avatar 2 และไม่รู้ว่าไปดูดีไหม
เราอยากให้คุณลองไปอ่าน รีวิว- Avartar-2 จากเว็บไซต์ของเรา ได้ก่อนเลยเพื่อใช้ ในการตัดสินใจ ว่าควรเข้าไปดู ภาพยนตร์เรื่องนี้ ในโรงภาพยนตร์กว่า สามชั่วโมงหรือไม่
แต่ผู้เขียนแอบกระซิบ นิดนึงนะคะว่า เนื้อเรื่องน่าจะแตกต่าง จากภาคแรกที่ดู เหมือนจะเป็นการสู้รบ ระหว่างสองเผ่าพันธุ์ ในภาคนี้เราจะเห็น ความเป็นครอบครัวมากขึ้น ใครที่เป็นแฟนพันธ์ุแท้ เราแนะนำให้ไปอ่าน รีวิวของเราค่ะ รับรองว่าช่วยให้คุณ ตัดสินใจง่ายขึ้น อย่างแน่นอนค่ะ
สำหรับใครที่ชอบ dooseries tv สามารถไปดู ซีรีส์อัพเดทใหม่ ที่มีทั้งการ dooserieshd และ dooseries 4K เรียกว่าได้ชม เต็มอรรถรสแน่นอน
ดอกไม้สีขาว