ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต แนะนำภาพยนตร์ไทย ที่สร้างรายได้ได้สูงที่สุด จะเป็นเรื่องใดบ้าง ตามมาดูกันได้เลย

รีวิวหนังไทย

ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต ที่หลาย ๆ คนต้องรู้จักและ อาจจะเคยได้รับชม ผ่านจอโรงภาพยนตร์มาแล้ว ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องที่น่าติดตาม

ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต เรื่อง “ขุนบันลือ” โดยที่เรื่องราวดังกล่าว ก็มาจากไอเดียแก๊งสามช่า ก็มักจะเอามาเล่า กันเป็นประจำ เรื่องราวของการ มีบ้านเล็กแอบแฝง จนผุดเป็นไอเดีย จัดทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา และถึงแม้ว่าเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ ที่แก๊งสามช่า ต่างก็หยิบยกมา ก็อาจจะนำมาจากเรื่องจริง ของแต่ละคนก็เป็นไปได้

และได้เกิดเป็น หนังพีเรียดที่ย้อนยุค หนังครอบครัว แนวคอมเมดี้โดย ที่คนในครอบครัว ของคุณหม่ำก็ได้มาร่วมแสดงกัน อย่างมากมายได้แก่ ภรรยาหรือคุณมด แล้วก็ลูกชายคนเล็ก อย่างน้องมิ๊กซ์

หลายคนอาจจะเห็น ผลงานเพลงของน้องมิ๊กซ์ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งมิกซ์ก็มีผลงานเพลง ที่ผ่านหูผ่าตาคนดู กันมามากมาย อีกทั้งดาราตลก ที่คอยมาเสริมทัพต่อ หนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ก็เปรียบกับการได้รับชม รายการชิงร้อยชิงล้าน รวมกับก่อนบ่ายคลายเครียด นำมาผสมโรงกันนั่นเอง

ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต

ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต โดยที่เรื่องราว ของหนังเรื่องนี้ก็ได้กล่าวถึง ปีพุทธศักราช 2447 โดยที่ยุคนั้นทางบ้านเมือง ก็ได้มีการเถียงกัน ถึงเรื่องของ การยกเลิกทาส

ทางด้านของขุนบันลือ ก็ได้รับมอบหมายให้ ไปปฏิบัติงานทางราชการ ในตัวเมืองเชียงราย และคุณบันลือเองก็ กังวลใจเนื่องจากมด ซึ่งเป็นทาสสาว ที่ขุนบันลือนั้นมีความสัมพันธ์ แบบลับ ๆ ก็จับตามอง และเคืองแคลงใจว่า ขุนบันลือซุกสาว อีกคนหนึ่ง ไว้ในตัวเมืองเชียงราย

แล้วก็ยังมีเรื่องราว ที่เพื่อนสนิทของท่านขุนนำ ทั้งลูกสาวแล้วก็ลูกชาย มาฝากให้ขุนบันลือเป็นผู้ดูแล ด้วยเหตุผลต้องไป ดูงานราชการในต่างประเทศ และทั้งสองเอง ก็แอบชอบทาสที่อยู่ ในเรือนของขุนบันลือนั่นเอง

เรื่องราวของความสัมพันธ์ ระหว่างชนชั้นจากแต่ละคู่ ที่เกิดขึ้นแล้ว จะมีบทสรุปเป็นอย่างไร กับความรักที่แลดูจะยุ่งเหยิงพอสมควร จุดน่าสนใจของ หนังเรื่องนี้ก็ เซตฉากในลักษณะย้อนยุค กับความรู้สึกที่คล้ายคลึง กับละครบุพเพสันนิวาส และในส่วนของเนื้อเรื่อง จากแต่ละตัวละครก็ ไม่ได้มีการขยับขยาย แบบจริงจังมากนัก

โดยที่ ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต เรื่องนี้ก็ไม่ได้ เน้นไปที่ความสัมพันธ์ ของขุนบันลือมากมายนัก กับสาวที่อยู่ต่างถิ่น ที่ดูแล้วจะเป็นปริศนามากมาย อย่างที่คนดูนั้นคิดกัน และโดยส่วนใหญ่แล้วก็ มักจะเน้นไปที่เรื่องราว ในชีวิตประจำวัน เสียมากกว่านั้นเอง

อีกทั้งยังมีมุกตลก ๆ 5 บาท 10 บาท ปล่อยออกมาให้เห็น กันอยู่บ่อย ๆ แล้วก็ความที่เป็น ตลกหน้าตายสไตล์ของคุณหม่ำ ก็สร้างจุดขายได้ดีไม่ใช่น้อย โดยที่หนังของคุณหม่ำ เมื่อก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีนักแสดงรับเชิญ จำนวนหลายท่านทีเดียว ที่ช่วยมาเพิ่มเติมสีสันจุดในนี้เอง

เป็นตัวช่วยเสริม สร้างจุดแข็งให้กับตัวหนังขึ้นมา โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเวลา 20 นาทีแรก หลายสิ่งหลายอย่าง นั้นก็ต่างดูนุ่มนวล มากกว่าที่คนดูคาดคิด แล้วหนังก็เต็มไปด้วยบรรยากาศ ที่ดีเป็นอย่างมาก ไม่ได้มีมุกตลกมากเกินไปแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นเส้นเรื่องของหนัง ก็กลับไม่ได้มีการพัฒนา ได้แบบเต็มที่สักเท่าไหร่

ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต

รีวีวหนังไทย ขุนบันลือ มีรายละเอียดในหนัง น่าสนใจมากแค่ไหน มีเพียงก็ชายหญิง หลากหลายคู่ที่แค่มองตากัน แล้วก็ปิ๊งกันเท่านั้น จากนั้นก็ตกลงปลงใจกัน หรือในบางคู่ ก็อาจจะมีความผูกพัน กันมาบ้างแล้วนั่นเอง ทั้งที่ช่วงแรกก็มอง หน้ากันเท่านั้น ต่างคนก็ไม่มีทีท่าว่า จะมีใจต่อกัน แต่ไป ๆ มา ๆ ก็กลับมาพบรักกันเสียอย่างนั้น ในอารมณ์ที่เหงาปนฮา อะไรประมาณนี้

ในเรื่องของความผูกพัน ระหว่างทาสกับ ขุนนางนั้นก็ดูแล้ว จะมีไม่มากสักเท่าไหร่ และในส่วนประเด็นหลัก ของหนังที่มีทีท่าว่า จะเกี่ยวข้องกับการเลิกทาสนั้น ก็แทบจะไม่ได้มีเลย

และบอกได้เลยว่า รีวิวหนัง ซีรี่ย์ พลอตที่ว่านี้ก็สามารถที่ จะสร้างทางเลือกใหม่ที่เพิ่มเติม ซึ่งความแข็งแรงได้มากกว่านี้ และอาจส่งผลให้ เพิ่มเติมความครบรส ได้มากกว่าหนังตลก แนวคาเฟ่เหมือน หนังในสมัยก่อน

อาจจะมีหลากหลายสถานการณ์ ที่มองดูแล้วก็แทบจะ เหมือนเป็นตลกคาเฟ่ทีเดียว บางครั้งก็ดูเป็นการด้นสดแบบไปเรื่อย ๆ จึงทำให้รสชาติของหนัง นั้นจะดูจืดจางไป แล้วตัวมุกเองก็ ดูจะไม่ฉีกด้วยเช่นกัน และส่วนที่น่าหักคะแนนก็คือ จังหวะจะโคนนั้น ไม่ค่อยจะตรงล็อก

โดยส่วนใหญ่ก็เป็น เดอร์ตี้โจ๊กเสียมากกว่า ก็ไม่ได้แปลกอะไร ก็แนวนี้มันเป็นแนวของคุณหม่ำโดยตรง ซึ่งก็ใกล้เคียงกับ หนังของคุณพชร์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ ยังพอใช้งานได้ แล้วก็สามารถที่จะเข้าถึง คนดูบางกลุ่มที่นิยม ชมหนังประเภทนี้

และแม้ว่ามุกตลกโดยรวม ส่วนใหญ่จะดูจาง กันพอสมควร แต่หนังก็เก็บรายละเอียด ได้ดีกับปมเรื่องของครอบครัว และหากมองความเป็นจริงแล้ว เหมือนกับคุณหม่ำ ตั้งใจเคลียร์เรื่องประเด็น ที่แซวกันเรื่องเชียงราย กันอยู่บ่อย ๆ นี่แหละ

แล้วดูเหมือนว่า เป็นความโรมแมนติก ที่แข็งกระด้างตามสไตล์ คนชอบเขินแบบฉบับของแก ทางด้านน้องมิกซ์ ก็ได้โชว์จังหวะเพลงแร็พอยู่ หลายซีนด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้เด่นมากนัก

และถึงอย่างไรก็ตาม ภาพโดยรวมก็ ให้ความบันเทิงชนิดที่ดูได้แบบเรื่อย ๆ ก็ไม่ได้สร้างความติดขัด หรือว่าสร้างความรำคาญมาก สักเท่าไหร่ และจุดที่ชอบจุดหนึ่ง คือการเก็บรายละเอียด ได้ดีในส่วนของ เสื้อผ้าหน้าผม ที่ทำออกมาได้แบบ เป๊ะมากกันเลยทีเดียว

ภาพยนตร์ที่น่าสนใจ อีกหนึ่งเรื่อง ที่ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ๆ เมื่อลงฉายในโรงภาพยนตร์ จากค่ายทรานส์ฟอร์เมชั่นฟิล์ม กับเรื่อง แสงกระสือ

โดยที่ภาพยนตร์ ดังกล่าวนี้นั้น ก็ได้รับกระแสตอบรับ ที่ดีอย่างล้นหลามเลยทีเดียว โดยได้มีการนำเรื่องราว ของตำนานของ ผีกระสือมาเรียบเรียงใหม่ ผนวกเข้ากับความรัก ของหนุ่มสาววัยรุ่น ผลงานของผู้กำกับ สิทธิศิริ มงคลศิริ กับผลงานทางด้านการกำกับโฆษณา อีกทั้งยังมีเครดิต เป็นผู้กำกับร่วมกับภาพยนตร์ อย่างลาสซัมเมอร์ มาก่อนหน้านี้นั่นเอง

และผู้กำกับมากฝีมือ อีกท่านหนึ่งนั่นก็คือ คุณมะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล จากผลงาน ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต รักแห่งสยาม กับผลงานของเขา ที่มีชื่อว่า ดิวไปด้วยกันนะ

ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต

โดยเขาได้ทำหน้าที่ มาเขียนบทให้นั่นเอง ที่นักแสดงนำจากละครโทรทัศน์ ได้แก่ คุณมินนี่ ภัณฑิรา โดยที่เธอนั้นก็มี หนังไทยให้เล่นกัน จำนวน 2 เรื่อง ในปี นั้นเอง แล้วก็อีกเรื่อง ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต ก็คือ แฮปปี้นิวยู นักแสดงท่านต่อมา คุณโอบ โอบนิธิ วิววรรธนวรางค์

ผลงานของเธอก็ ได้มีในละคร netflix นั่นเอง และ คุณเกรท-สพล อัศวมั่นคง สมทบด้วยนักแสดง อีกท่านหนึ่ง ซึ่งมักจะแสดงเป็นตัวร้าย ของภาพยนตร์ไทยตลอด ซึ่งได้หายหน้าหายตา ไปนานพอสมควร

นั่นก็คือ คุณเอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย สำหรับความสำเร็จ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็เกิดขึ้นจากการแสดง ได้อย่างลงตัว ของทีมนักแสดงหลัก แต่ยังรวมถึงการเซต ทางด้านโปรโมชัน แล้วก็บรรยากาศ ที่สามารถทำออกมาได้ สมจริงเป็นอย่างมาก และถึงแม้ว่าหนังเรื่องดังกล่าว จะมีเรื่องราวเน้นไปที่องค์ที่สาม

ซึ่งเปลี่ยนเรื่องจาก ภาพยนตร์ไทยยอดฮิต หนังแนวทริลเลอร์ กลายมาเป็นหนัง แนวแฟนตาซีได้ อย่างเต็มรูปแบบ และสูตรที่ว่านี้ ก็เคยประสบกับภาพยนตร์ ไทยมากชื่อเสียงอย่าง นาคี 2 โดยกล่าวถึงเรื่องของ ตำนานแล้วก็ภูตผี

อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ได้รับการคัดเลือก ให้เป็นตัวแทนของไทย ได้ไปแข่งขันใน สาขาภาพยนตร์จากต่างประเทศ ชิงรางวัลออสการ์ ประจำปี 2562 ได้อีกด้วย แล้วคุณล่ะ มีข้อคิดเห็น อย่างไรกับการได้ชมภาพยนตร์ไทย ทั้งสองเรื่องนี้ ซึ่งสร้างความสนุก แล้วก็คุ้มค่าได้มากทีเดียว

ติดตามบทความดี ๆ กันต่อได้ที่ >>>

 

เรียบเรียงโดย อลิส